สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดอุบลราชธานี
ธรรมาสน์สิงห์ศิลปะญวนที่บ้านชีทวน
ตั้งอยู่ที่ศาลาการเปรียญวัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ บ้านชีทวน ตำบลชีทวน
อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๒๖ กิโลเมตร การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๓
(อุบลราชธานี-ยโสธร) ประมาณ ๒๔ กิโลเมตร จะถึงบ้านท่าวารี
มีทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านอีก ๕ กิโลเมตร
เป็นธรรมาสน์ที่แตกต่างจากธรรมาสน์โดยทั่วไปกล่าวคือ
มีลักษณะเป็นรูปสิงห์ยืนเทินปราสาท (ตัวธรรมาสน์) สร้างด้วยอิฐถือปูน
ยอดปราสาทเป็นเครื่องไม้ทำเป็นชั้นซ้อนลดหลั่นประดับตกแต่งลายปูนปั้น
และลายเขียนสีแบบศิลปะญวนทั้งหลัง
ธรรมาสน์นี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๖๘ โดยช่างชาวญวน
และถือเป็นประติมากรรมที่มีคุณค่ายิ่งทางด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
มีพื้นที่ประมาณ ๕๐,๐๐๐ ไร่
ในเขตอำเภอสิรินธรและอำเภอโขงเจียม
ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ย ๆ
สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดง ต้นไม้ในป่ามีลักษณะแคระแกรน
บางส่วนเป็นทุ่งหญ้า ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๓
กรกฎาคม ๒๕๒๔ ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูลบริเวณแก่งตะนะ
การเดินทาง สามารถไปได้สองเส้นทาง คือ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๑๗
(อุบลราชธานี-พิบูลมังสาหาร-ช่องเม็ก ประมาณ ๗๕ กิโลเมตร)
แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง ๒๑๗๓ อีก ๑๓ กิโลเมตร
ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๒๒๒ ผ่านอำเภอโขงเจียมประมาณ ๔
กิโลเมตร แล้วข้ามแม่น้ำมูลไปอีก ๑๒ กิโลเมตร
หรืออาจใช้เส้นทางที่ข้ามสันเขื่อนปากมูลก็ได้ (กรณีที่เขื่อนเปิด)
เขื่อนปากมูล
เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียวสร้างกั้นแม่น้ำมูลที่บ้านหัวเหว่
อำเภอโขงเจียม มีความสูง ๑๗ เมตร ยาว ๓๐๐ เมตร
อำนวยประโยชน์ในด้านการเกษตรและผลิตกระแสไฟฟ้า
เขื่อนปากมูลอยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีประมาณ ๗๕ กิโลเมตร
ห่างจากจุดบรรจบของแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงประมาณ ๖ กิโลเมตร
กรณีเขื่อนเปิดทำการสันของเขื่อนปากมูลสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดจากอำเภอโขงเจียมไปอำเภอสิรินธรได้
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ
เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๓๔ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอโขงเจียม
อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร มีพื้นที่ติดกับประเทศลาว
โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นแบ่งพรมแดน มีพื้นที่ประมาณ ๑๔๐ ตารางกิโลเมตร
สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขา
มีหน้าผาสูงชันซึ่งเกิดจากการแยกตัวของผิวโลก
สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าเต็งรัง
มีหินทรายลักษณะแปลกตากระจายอยู่ทั่วบริเวณ
มีพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน
น้ำตกห้วยทรายใหญ่ (แก่งอีเขียว)
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-เขายอดมน เป็นน้ำตกที่สวยงาม
ห่างจากอำเภอบุณฑริกไปทางทิศเหนือตามเส้นทางหมายเลข ๒๓๖๙
ไปบ้านห้วยทราย เป็นระยะทาง ๒๖ กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ ๒๙
มีทางแยกขวาไปอีก ๖ กิโลเมตร
ลักษณะเป็นน้ำตกที่ไหลมาตามลานหินลดหลั่นลงไปด้านล่าง
บริเวณร่มรื่นมีน้ำมากในช่วงปลายฤดูฝน
อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย
มีพื้นที่ประมาณ ๖๘๖ ตารางกิโลเมตร
ในเขตอำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย และอำเภอน้ำยืน
มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศลาวและกัมพูชาหรือที่เรียกว่า สามเหลี่ยมมรกต
พื้นที่เป็นภูเขาในเทือกเขาพนมดงรัก สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์
ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๓๐
ปราสาทบ้านเบ็ญ
ตั้งอยู่ที่บ้านหนองอ้ม ตำบลหนองอ้ม ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๖๓
กิโลเมตร บนเส้นทางเดชอุดม-น้ำยืน ปราสาทบ้านเบ็ญเป็นศาสนสถานขอมขนาดย่อมประกอบด้วยปรางค์อิฐ
๓ หลัง ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงที่สร้างแยกกัน
กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้พบทับหลังรูปเทพนพเคราะห์
หรือเทวดาประจำทิศทั้ง ๙ องค์ และรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
จากลักษณะแผนผังทางสถาปัตยกรรมและภาพสลักบนทับหลังที่พบอาจกำหนดอายุปราสาทหลังนี้ได้ประมาณปลายพุทธศตวรรษที่
๑๕ ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๖
ถ้ำเหวสินธุ์ชัย
ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข ๒๒๒๒ ก่อนถึงโขงเจียมประมาณ ๗
กิโลเมตร เลี้ยวเข้าไปประมาณ ๒ กิโลเมตร
บริเวณถ้ำมีพระพุทธไสยาสน์บรรยากาศสงบเงียบ
เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม รอบ ๆ
วัดมีก้อนหินขนาดใหญ่เรียงรายอยู่มากมาย
มีต้นไม้และดอกไม้ตามฤดูกาลสวยงาม
นอกจากนี้ยังมีน้ำตกไหลจากหน้าผาด้านบนผ่านลงมาบริเวณด้านหน้าพระนอนเป็นก่อนที่จะตกลงสู่หุบเหวเบื้องล่างสร้างบรรยากาศให้ร่มเย็น
จะมีน้ำมากในช่วงปลายฤดูฝน
วัดถ้ำคูหาสวรรค์
ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข ๒๒๒๒ ก่อนถึงอำเภอโขงเจียมประมาณ ๖
กิโลเมตร วัดนี้ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ โดย "หลวงปู่คำคนิง จุลมณี"
ซึ่งใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมจำพรรษา ปัจจุบันหลวงปู่ท่านได้มรณภาพแล้ว
แต่ร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อย
บรรดาลูกศิษย์ได้เก็บร่างของท่านไว้ในโลงแก้วเพื่อบูชา
บริเวณวัดมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นทัศนียภาพของลำน้ำโขงและฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน
แม่น้ำสองสี
หรือดอนด่านปากแม่น้ำมูล อยู่ในเขตบ้านเวินบึก
นั่งเรือจากตัวอำเภอโขงเจียมไปประมาณ ๕ นาที
เป็นบริเวณที่แม่น้ำมูลไหลลงสู่แม่น้ำโขงเกิดเป็นสีของแม่น้ำที่ต่างกันจึงเรียกกันอย่างคล้องจองว่าโขงสีปูน
มูลสีคราม จุดที่สามารถมองเห็นแม่น้ำสองสีได้อย่างชัดเจน คือ
บริเวณลาดริมตลิ่งหน้าวัดโขงเจียม และบริเวณบางส่วนของหมู่บ้านห้วยหมาก
ในเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่เห็นความแตกต่างของสีน้ำได้ชัดเจนที่สุด
นอกจากนี้แล้วบริเวณใกล้เคียงยังมีบริการเรือพาล่องชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำ
ชมแม่น้ำสองสี ๒๐๐ บาท / แก่งตะนะ ๔๐๐ บาท/ บ้านเวินบึก ๔๐๐ บาท/
ผาแต้ม ๘๐๐ บาท
โดยสามารถแวะซื้อของที่ระลึกที่ตลาดหมู่บ้านในฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้อีกด้วย