-----------------------------------------------------------
สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดชัยภูมิ
อุทยานแห่งชาติตาดโตน
ตั้งอยู่ในตำบลนาฝาย ตำบลท่าหินโหม ตำบลห้วยต้อน และตำบลนาเสียว
ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของเทือกเขาภูแลนคา มีเนื้อที่รวมประมาณ ๒๑๗
ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่สำคัญ คือ ลำปะทาว
และจะไหลรวมกับแม่น้ำชี มีน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง ได้แก่ น้ำตกตาดโตน
น้ำตกตาดฟ้า และน้ำตกผาเอียง
น้ำตกตาดโตน
เป็นน้ำตกที่สวยงามใกล้ที่ทำการอุทยานฯ
มีน้ำไหลตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูฝนจะสวยงามเป็นพิเศษ มีความสูงประมาณ ๖
เมตร และกว้าง ๕๐ เมตร
ด้านบนเป็นธารน้ำไหลผ่านลานหินสองฝั่งธารร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่
เหมาะที่จะนั่งพักผ่อนชมธรรมชาติและเล่นน้ำ บริเวณน้ำตกมี
ศาลเจ้าพ่อตาดโตน (ศาลปู่ด้วง)
มีประวัติว่า
เจ้าพ่อตาดโตนเป็นคนเชื้อสายเขมรอพยพเข้าเมืองไทย
ในเวลาใกล้เคียงกับพ่อพระยาแล (พระยาภักดีชุมพล)
ท่านบำเพ็ญตนเป็นชีปะขาวยึดมั่นในสมถะ กรรมฐาน
ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และช่วยรักษาคนไข้
เป็นที่นับถือเลื่อมใสของราษฎรมาก
เมื่อถึงแก่กรรมจึงมีการสร้างศาลขึ้นเพื่อเป็นที่เคารพสักการะไว้หลายแห่ง
นอกจากที่น้ำตกตาดโตนแล้วยังมีศาลปู่ด้วงที่ช่องสามหมอ
และที่วัดชัยภูมิพิทักษ์อีกด้วย มักมีประเพณีรำผีฟ้า
ผีทรงบวงสรวงเจ้าพ่อเป็นประจำ
อนุสาวรีย์พระยาภักดีชุมพล
(แล)
ตั้งอยู่กลางวงเวียนศูนย์ราชการ ในตัวเมือง
ชาวชัยภูมิได้ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่เจ้าเมืองคนแรกของชัยภูมิ
ตามประวัติเล่าว่า ในปี ๒๓๖๐ ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๒ นายแล
ซึ่งเป็นข้าราชการสำนักเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์
ได้อพยพครอบครัวและบริวารข้ามลำน้ำโขงมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านน้ำขุ่น
บริเวณอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาในปัจจุบัน
ต่อมาได้ย้ายชุมชนมาตั้งใหม่ที่โนนน้ำอ้อม บ้านชีลอง
ห่างจากตัวเมืองชัยภูมิ ๖ กิโลเมตร
ได้ส่งส่วยต่อเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์
ต่อมาจึงย้ายชุมชนมาอยู่ที่บ้านหลวง ในเขตอำเภอเมืองปัจจุบัน
และได้หันมาขึ้นตรงต่อเมืองนครราชสีมา ส่งส่วยแก่รัชกาลที่ ๓
ไม่ขึ้นแก่เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์อีกต่อไป จึงโปรดเกล้าฯ
ยกบ้านหลวงเป็นเมืองชัยภูมิ และแต่งตั้ง ขุนภักดีชุมพล
(แล)
เป็นเจ้าเมืองคนแรกของชัยภูมิ
ครั้น พ.ศ.
๒๓๖๙ เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ก่อการกบฏ
ยกทัพเข้าตีเมืองนครราชสีมา
ขุนภักดีชุมพลพร้อมเจ้าเมืองใกล้เคียงยกทัพไปสมทบกับคุณหญิงโม
ตีกระหนาบทัพเจ้าอนุวงศ์จนแตกพ่าย
เจ้าอนุวงศ์เกิดความแค้นจึงย้อนกลับมาจับขุนภักดีชุมพลประหารชีวิตที่บริเวณใต้ต้นมะขามริมหนองปลาเฒ่า
ด้วยความดีที่ขุนภักดีชุมพลมีต่อแผ่นดินไทยจึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระยาภักดีชุมพล (แล)
วัดศิลาอาสน์
ภูพระ
ตั้งอยู่ที่บ้านนาไก่เซา
ตำบลนาเสียว ภายในบริเวณวัดมีเพิงผาหินซึ่งมีภาพจำหลักกลุ่มพระพุทธรูป
อันเป็นที่มาของชื่อ ภูพระ และเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านมาช้านาน
ปัจจุบันมีการสร้างหลังคาครอบไว้
ประกอบด้วยพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง ๕
ฟุต สูง ๗ ฟุต พระหัตถ์ขวาวางอยู่ที่พระเพลา
พระหัตถ์ซ้ายพาดอยู่ที่พระชงฆ์ (พระหัตถ์อยู่ในท่าตรงข้ามกับปางมารวิชัย)
เรียกกันว่า พระเจ้าตื้อ
มีพระพุทธรูปหินทรายขนาดเล็กสูง ๗ นิ้วลักษณะเดียวกันอีก ๑
องค์ตั้งวางอยู่ด้านหน้า ใกล้กันมีพระพุทธรูปอีก ๗
องค์จำหลักรอบเสาหินทราย ประทับนั่งเรียงแถว ปางสมาธิ ๕ องค์
ปางเดียวกับพระเจ้าตื้อ ๒ องค์
พระพุทธรูปเหล่านี้มีพุทธลักษณะเป็นแบบพระพุทธรูปอู่ทอง
มีอายุอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๑๙
ร่วมสมัยอยุธยาตอนต้น
ทุกปีมีงานนมัสการพระพุทธรูปที่ภูพระในช่วงวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๓
และวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๕
ปรางค์กู่
ตั้งอยู่ที่บ้านหนองบัว
ตำบลในเมือง
ปรางค์กู่เป็นปราสาทหินสมัยขอมที่มีแผนผังและลักษณะเช่นเดียวกับปราสาทอื่นที่เป็น
อโรคยาศาล หรือสถานพยาบาลที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ นั่นคือ
มีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง ๑ องค์ วิหารหรือบรรณาลัยด้านหน้า ๑ หลัง
ล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง นอกกำแพงตรงมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีสระน้ำ
๑ สระ ปรางค์ประธานมีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด ๕ เมตร
ย่อมุมไม้สิบสอง ด้านหน้ามีประตูเข้าออกทำเป็นมุขยื่นออกมา
ผนังปรางค์อีก ๓ ด้านเป็นประตูหลอก
เหนือประตูหลอกด้านทิศเหนือยังคงมีทับหลังติดอยู่
จำหลักภาพตรงกลางเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิเหนือหน้ากาล
ซึ่งจับท่อนพวงมาลัยไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
ด้านหน้ามีทับหลังเช่นกันแต่ลบเลือนไปมาก
ที่ช่องประตูหลอกด้านทิศเหนือมีพระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ ศิลปะแบบทวารวดี
สูง ๑.๗๕
เมตร ประดิษฐานอยู่ โดยเคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น
ชาวชัยภูมิให้ความเคารพสักการะ มีการจัดงานประจำปีในช่วงกลางเดือน ๕
ของทุกปี
ใบเสมาบ้านกุดโง้ง
เก็บรักษาอยู่ภายในบริเวณโรงเรียนวัดกุดโง้ง ตำบลกุดตุ้ม
เป็นใบเสมาหินทรายศิลปะทวารวดีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๕
ที่พบเป็นจำนวนมากในบริเวณรอบ ๆ
หมู่บ้านได้ถูกนำมารวบรวมไว้ในอาคารอย่างเป็นระเบียบ
ส่วนมากมีลักษณะเป็นแผ่นใหญ่
ด้านหน้าจำหลักลายและบางแผ่นมีจารึกอยู่ที่ด้านหลังด้วย ลวดลายที่ปรากฏเป็นเรื่องราวทางพุทธศาสนาเล่าเรื่องชาดกตอนต่าง
ๆ หรือเป็นภาพรูปเคารพ เช่น ภาพพระโพธิสัตว์ประทับยืนบนดอกบัว
ภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งบนบัลลังก์ใต้ต้นโพธิ์
นับเป็นกลุ่มเสมาที่สวยงามแห่งหนึ่งในอีสาน
ผาเกิ้ง
เป็นส่วนหนึ่งของภูแลนคา หากเดินทางมาตามเส้นทางชัยภูมิ-หนองบัวแดง
จะเห็นหน้าผาสูงริมทางคล้ายพระจันทร์เสี้ยวยื่นออกมา
ชาวบ้านจึงเรียกว่า ผาเกิ้ง ซึ่งหมายถึงพระจันทร์ในภาษาอีสาน
บนเขามีวัดผาเกิ้งหรือวัดชัยภูมิพิทักษ์ตั้งอยู่
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปชัยภูมิพิทักษ์
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่สูง ๑๔ เมตร
ด้านหน้าองค์พระเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมองเห็นทัศนียภาพของทุ่งนาได้กว้างไกล
ผาเกิ้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๓๖ กิโลเมตรบนหลวงหมายเลข ๒๑๕๙
(ชัยภูมิ-หนองบัวแดง)
ถ้ำแก้ว
ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดถ้ำแก้ว ลักษณะของถ้ำคล้ายห้องโถงลึกลงไปในภูเขา
บรรยากาศเย็นและชื้นตลอดเวลา มีไฟฟ้าให้แสงสว่างภายในถ้ำ
จากปากถ้ำมีทางเดินลงลึกไปถึงด้านล่าง ซึ่งมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่
และมีหินย้อยอยู่ตามผนังถ้ำ เมื่อต้องแสงเกิดเป็นประกายแวววาวสวยงาม
จุดชมวิวเทือกเขาพังเหย
ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข ๒๒๕ ห่างจากตัวเมืองชัยภูมิ ๗๕ กิโลเมตร
เป็นที่แวะพักผ่อนระหว่างเดินทาง
มีร้านอาหารของชาวบ้านและศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ศูนย์รวมไม้ดัดบ้านแข้
อยู่บนทางหลวงหมายเลข ๒๐๑ ห่างจากตัวเมืองชัยภูมิ ๗๖ กิโลเมตร
หรือก่อนถึงอำเภอภูเขียวประมาณ ๑ กิโลเมตร
สองข้างทางจะเป็นแหล่งจำหน่ายไม้ดัด รูปร่างลักษณะต่าง ๆ
มากมายหลายขนาด เหมาะที่จะนำไปปลูกตกแต่งสวน
การทำไม้ดัดเป็นอาชีพของชาวบ้านแข้โดยเฉพาะ โดยนำไม้ประเภทข่อย มะสัง
ตะโกที่มีอยู่มากในบริเวณนี้มาดัดและตัดแต่งให้เป็นรูปทรงที่สวยงาม
และจำหน่ายในราคาที่ย่อมเยา
พระธาตุหนองสามหมื่น
ตั้งอยู่บ้านแก้ง
เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญและน่าสนใจมากแห่งหนึ่งของชัยภูมิ พระธาตุหนองสามหมื่น
เรียกชื่อตามหนองน้ำ ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัด
เป็นพระธาตุที่มีลักษณะสวยงาม และสมบูรณ์ที่สุดองค์หนึ่ง
ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด
แต่จากลักษณะทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่ปรากฏเกิดจากการผสมผสานกันระหว่างศิลปล้านนา
ล้านช้าง และอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑-๒๒
ในสมัยพระไชยเชษฐาธิราชแห่งราชอาณาจักรลาว
พระธาตุหนองสามหมื่นมีลักษณะเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง
ตั้งอยู่บนฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความสูงประมาณ ๔๕ เมตร
มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน
เหนือฐานเขียงเป็นฐานบัวคว่ำบัวหงายรองรับองค์พระธาตุ
ซึ่งมีซุ้มทั้งสี่ทิศ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง และปางลีลา
ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
รูปแบบดังกล่าวอาจเปรียบเทียบได้กับพระธาตุอื่นๆ
ทั้งในนครเวียงจันทน์และในเขตไทย เช่น พระธาตุวัดเทพพล เมืองเวียงคุก
จังหวัดหนองคาย พระธาตุศรีเมือง นครเวียงจันทน์ เป็นต้น
เขื่อนจุฬาภรณ์
(เขื่อนน้ำพรม)
ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งพระ
สร้างปิดกั้นลำน้ำพรมบนเทือกเขาขุนพาย ลักษณะเขื่อนเป็นเขื่อนหินทิ้ง
แกนกลางเป็นดินเหนียว ตัวสันเขื่อนยาว ๗๐๐ เมตร ความสูงจากฐานราก ๗๐
เมตร
เป็นลักษณะเขื่อนเอนกประสงค์ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.) โดยใช้ประโยชน์ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าและยังอำนวยประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม
นอกจากนี้ในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดอีกด้วย
บริเวณเขื่อนมีทิวทัศน์ที่งดงาม
อากาศเย็นสบายตลอดปี
จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ
ภายในบริเวณเขื่อนมีบ้านพัก ร้านอาหารไว้รับรองนักท่องเที่ยว
เรือสำหรับให้ล่องชมอ่างเก็บน้ำ มีจุดชมวิวทิวทัศน์เหนือเขื่อน
ศูนย์ทดลองพืชเมืองหนาว และหอดูดาว ติดต่อบ้านพักรับรองของ กฟผ.
โทร. ๐
๔๔๘๖ ๑๖๖๘-๙,
๐๔๓๓๘ ๔๙๖๙ ต่อ ๒๒๘๗
บ้านพักสถานีทดลองและฝึกอบรมเขื่อนจุฬาภรณ์ (ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น)
โทร. ๐ ๔๓๒๐ ๒๓๖๕
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว
มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ป่าในเขตอำเภอคอนสาร เกษตรสมบูรณ์
และหนองบัวแดง ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า
การเพาะเลี้ยงและการขยายพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกยูง เก้ง
กวางและเนื้อทราย เป็นต้นโดยปล่อยสัตว์ให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ
สามารถสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้เอง
ได้มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
ทุ่งกระมัง
เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว
แหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์กินพืช มีเนื้อที่ ๑,๕๐๐
ไร่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖
และ พ.ศ.
๒๕๓๕โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
ได้ปล่อยสัตว์ป่าคืนถิ่นในบริเวณนี้ เช่น เก้ง กวาง กระจง และนกต่างๆ
มีการจัดทำดินโป่งในบริเวณทุ่งกะมังเพื่อให้สัตว์มากินดินโป่งและเผาแปลงทุ่งหญ้าเพื่อให้เกิดหญ้าระบัดเป็นอาหารของเก้ง
กวางในช่วงฤดูแล้ง บนยอดเนินเหนือบริเวณทุ่งกะมัง
มีพระตำหนักที่ประทับอยู่เหนืออ่างน้ำ ทุ่งกระมังเปิดให้เข้าชมเวลา
๐๘.๐๐–๑๕.๐๐ น. และจะไม่เปิดให้เข้าทัศนศึกษาตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมเป็นเวลา
๓ เดือน เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่อุดมไปด้วยป่าไม้และสัตว์ป่า
การเดินทางเข้ามาในพื้นที่ก็เสมือนการเข้ามารบกวนธรรมชาติ ดังนั้น
จึงเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าจริง ๆ