--------------------------------------------------------------------------------
สถานที่ท่องเที่ยว
จังหวัดขอนแก่น
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ขอนแก่น
ตั้งอยู่ถนนหลังศูนย์ราชการ
เป็นที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุอันมีค่าตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยประวัติศาสตร์
มีการจัดแสดงโครงกระดูกมนุษย์ยุคหินใหม่ที่บ้านเชียงและเครื่องมือเครื่องใช้ของผู้คนในยุคนั้น
สิ่งที่ควรชมสำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
คือใบเสมาหินทรายขนาดใหญ่เป็นงานพุทธศิลป์สมัยทวารวดีจำหลักภาพพุทธประวัติที่งดงามและสมบูรณ์มาก
พบที่เมืองฟ้าแดดสูงยาง
จังหวัดกาฬสินธุ์
นอกจากนั้นยังมีศิลปวัตถุสมัยขอมหรือลพบุรีอันได้แก่ทับหลังจากปราสาทหินในภาคอีสาน
นอกเหนือจากโบราณวัตถุที่พบในท้องถิ่นแล้ว
ที่นี่ยังจัดแสดงศิลปวัตถุสมัยอื่นไว้ด้วย
เช่น สุโขทัย
อยุธยา เป็นต้น
และส่วนหนึ่งก็จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านไว้ด้วยเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาด้านประวัติศาสตร์
โบราณคดี และชีวิตความเป็นอยู่ของคนอีสาน
เปิดให้เข้าชมทุกวัน
เวลา ๐๙.๐๐ -๑๖.๐๐
น. ค่าเข้าชมชาวไทย
๑๐ บาท ชาวต่างประเทศ
๓๐ บาท รายละเอียดเพิ่มเติม
โทร. ๐ ๔๓๒๔
๖๑๗๐
บึงแก่นนคร
ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลกลางเมืองขอนแก่น
เป็นบึงขนาดใหญ่
มีเนื้อที่
๖๐๓ ไร่ นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์
"เจ้าเพี้ยเมืองแพน"
ผู้ก่อตั้งเมืองขอนแก่นแล้ว
ยังเป็นที่ประชาชนนิยมมาพักผ่อนมมาพักผ่อนหย่อนใจ
และทำกิจกรรมนันทนาการของชาวเมืองเพราะมีบรรยากาศสบาย
ๆ พื้นที่โดยรอบร่มรื่นด้วยต้นไม้
มีสวนสุขภาพ
ประดับประดาด้วยประติมากรรมรูปต่าง
ๆ ดูเพลินตาเพลินใจ
โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น
คือหอเก็บสมบัติที่เก็บรวบรวมเรื่องราวอันเป็นที่มาของเมืองขอนแก่น
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวขอนแก่นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อเชื่อมโยงให้ชุมชนเกิดจิตสำนึกในความรักและหวงแหนท้องถิ่นของตนเองและเป็นศูนย์กลางการศึกษาค้นคว้าข้อมูลประวัติเมืองขอนแก่น
โดยอาศัยผู้เฒ่าผู้แก่และชาวขอนแก่นเป็นผู้ให้ข้อมูล
โดยแบ่งพื้นที่จัดนิทรรศการออกเป็น
๕ โซน คือ โซนที่
๑ แนะนำเมืองขอนแก่น
โซนที่ ๒ ประวัติศาสตร์ของเมืองขอนแก่น
และวัฒนธรรมโบราณ
ที่มีอายุยาวนานมากกว่า
๓,๐๐๐
- ๕,๐๐๐
ปี นับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
โซนที่ ๓ การตั้งเมือง
โซนที่ ๔ บ้านเมืองและวิถีชีวิตของชาวขอนแก่น
โซนที่ ๕ ขอนแก่นวันนี้
นำเสนอภาพสะท้อนชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวขอนแก่นในปัจจุบันด้วยการนำเสนอวัฒธรรมประเพณีที่ยังคงปฏิบัติกันสืบมาจนถึงปัจจุบัน
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ ๒๐
บาท เด็ก ๑๐
บาท ชาวต่างชาติ
๙๐ บาท สอบถามรายละเอียด
โทร. ๐ ๔๓๒๗
๑๑๗๓
พระมหาแก่นนคร
( พระธาตุ ๙
ชั้น )
ตั้งอยู่ภายในวัดหนองแวงพระอารามหลวง
ถนนกลางเมือง
เป็นสถานที่บรรจุพระสารีริกธาตุ
และรวบรวมคำภีร์
ทางพระพุทธศาสนา
บานประตู หน้าต่าง
แต่ละชั้นแกะสลักภาพชาดก
ภาพพุทธประวัติ
ภาพประจำวัน
ภาพแกะสลักรูปพรหม
๑๖ ชั้น ภาพในพิธีการต่างๆ
ภายในฝาผนังทั้ง
๔ ด้าน มีภาพประวัติเมืองขอนแก่น
และชั้นที่
๙ เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกลางบุษบก
และเป็นหอชมวิวทิวทัศน์ตัวเมืองขอนแก่นที่สวยงามทั้ง
๔ ด้าน
สิมอีสาน
(วัดป่าแสงอรุณ)
ตั้งอยู่ในวัดป่าแสงอรุณ
ตำบลพระลับ
ห่างจากศาลากลางจังหวัด
๓ กิโลเมตร
ตามเส้นทางขอนแก่น-กาฬสินธุ์
สิมอีสานมีความวิจิตรงดงามของอาคารและภาพเขียนฝาผนังลายผ้าไหมมัดหมี่
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่น
เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้และอนุรักษ์สถาปัตยกรรมท้องถิ่น
วัดไชยศรีและฮูปแต้มสินไซ
วัดไชยศรี
ตั้งอยู่บ้านสาวะถี
ตำบลสาวะถี
เป็นวัดเก่าแก่ตั้งมาตั้งแต่ปี
๒๕๐๘ มีอาคารที่สำคัญคือ
ศาลาการเปรียญ
กุฏิพระสงฆ์
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน
และสิมหรือโบสถ์ของวัดมีจิตรกรรมฝาผนัง
(ฮูปแต้ม) เรื่องราวทางพุทธศาสนา
วัฒนธรรม ประเพณี
วิถีชีวิตของคนอีสานโดยฝีมือช่างพื้นบ้าน
ในทุกมุมทุกด้านไม่มีที่ว่างทั้งด้านนอกและด้านใน
พระธาตุขามแก่น
ตั้งอยู่ตำบลบ้านขาม
ในวัดเจติยภูมิ
สร้างขึ้นประมาณต้นพุทธศตวรรษที่
๒๕ ตามประวัติโดยย่อกล่าวว่าโมริยกษัตริย์เจ้าเมืองโมรีย์ซึ่งเป็นเมืองอยู่ในอาณาเขตของประเทศกัมพูชา
มีความประสงค์ที่จะนำพระอังคารของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ได้ไว้เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าปรินิพพานใหม่
ๆ มาบรรจุพระธาตุพนม
จึงโปรดให้พระอรหันต์และพระเถระเจ้าคณะรวม
๙ องค์ นำขบวนอัญเชิญพระอังคารมาในครั้งนี้
เมื่อผ่านมาถึงดอนมะขามแห่งหนึ่งซึ่งมีต้นมะขามใหญ่ที่ตายแล้วเหลือแต่แก่น
เนื่องจากเป็นเวลาพลบค่ำแล้วและบริเวณนี้ภูมิประเทศราบเรียบดีจึงหยุดคณะพักชั่วคราว
รุ่งเช้าจึงเดินทางต่อไปถึงภูกำพร้าปรากฏว่าพระธาตุพนมได้สร้างเสร็จแล้ว
จึงเดินทางกลับและตั้งใจว่าจะนำพระอังคารธาตุกลับไปประดิษฐานไว้ที่บ้านเมืองของตน
แต่เมื่อเดินทางผ่านดอนมะขามอีกครั้งปรากฏว่าแก่นมะขามที่ตายแล้วนั้นกลับยืนต้นแตกกิ่งก้านผลิใบเขียวชอุ่มเป็นที่น่าอัศจรรย์
คณะอัญเชิญพระอังคารธาตุจึงพร้อมใจกันสร้างเจดีย์ครอบต้นมะขามนี้
พร้อมกับนำพระอังคารธาตุและพระพุทธรูปบรรจุไว้ในองค์พระธาตุและให้นามว่าพระธาตุขามแก่นมาจนทุกวันนี้
องค์พระธาตุขามแก่น
ได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากร
ภายใต้การควบคุมของสำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่
๙ มีการปรับปรุงทาสีองค์พระธาตุ
ขยายบริเวณกำแพงแก้วทั้ง
๔ ด้าน ห่างจากองค์พระธาตุ
ให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม
ทุกปีในวันขึ้น
๑๕ ค่ำ เดือน
๖ จะมีงานฉลองและนมัสการพระธาตุขามแก่นเป็นงานประจำปี
หมู่บ้านงูจงอาง
บ้านโคกสง่า
ตำบลทรายมูล
ชาวบ้านโคกสง่าแต่เดิมมีอาชีพขายยาสมุนไพรควบคู่กับการทำนามาแต่รุ่นปู่ย่าตายาย
การขายยาสมุนไพรในสมัยก่อนต้องเดินเท้าไปเร่ขายยาตามหมู่บ้านต่าง
ๆ ด้วยความยากลำบาก
แต่เมื่อปีพ.ศ.
๒๔๙๔ พ่อใหญ่เคน
ยงลา หมอยาบ้านโคกสง่าจึงได้คิดหางูเห่ามาแสดงเพื่อเป็นการดึงดูดคนมาดู
แทนที่จะต้องเดินไปขายยาในทุก
ๆ หมู่บ้านเช่นเคย
ปรากฏว่าการแสดงประสบความสำเร็จสามารถเรียกคนมาดูได้มากพอสมควร
แต่เนื่องจากงูเห่านั้นมีอันตรายมากสามารถพ่นพิษได้ไกลถึง
๒ เมตร พ่อใหญ่จึงเปลี่ยนมาใช้งูจงอางแสดงแทนและถ่ายทอดวิชาแสดงงูให้คนในหมู่บ้าน
เมื่อว่างเว้นจากการเกษตรชาวบ้านจะรวมกลุ่มเดินทางออกเร่แสดงงูเพื่อขายยาสมุนไพร
ส่วนการแสดงที่หมู่บ้านนั้นจะจัดขึ้นบริเวณลานวัดศรีธรรมา
และรอบ ๆ บริเวณก็จะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับงูจงอาง
รวมทั้งมีโรงเรือนเพาะเลี้ยงงูจงอางอยู่ด้วย
บางแสน
๒ และหาดจอมทอง
ตั้งอยู่ที่บ้านหินเพิง
ตำบลท่าเรือ
อยู่ห่างจากอำเภอเมืองไปประมาณ
๕๓ กิโลเมตร
บรรยากาศโดยรอบของชายหาดริมทะเลสาบน้ำจืดเหนือเขื่อนอุบลรัตน์
สวยสะดุดตาเมื่อพระอาทิตย์ฉายส่องลงมาในยามเย็นกระทบกับทิวเขาภูเก้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง
กิจกรรมกีฬาทางน้ำที่น่าสนใจคือ
จักรยานน้ำ
บานาน่า โบ๊ต
ห่วงยาง เรือสกู๊ตเตอร์
นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารเลิศรสที่ปรุงจากปลาในเขื่อนอุบลรัตน์
ได้แก่ ปลานิล
ปลาตะเพียน
ปลาช่อน ช่วงเทศกาลสำคัญ
หรือวันหยุด
มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมธรรมชาติ
และเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก
อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ
ครอบคลุมพื้นที่อำเภออุบลรัตน์
จังหวัดขอนแก่น
และอำเภอโนนสัง
จังหวัดหนองบัวลำภู
มีพื้นที่
๓๒๐ ตารางกิโลเมตร
หรือ ๒๐๑,๒๕๐
ไร่ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่
๒๐ กันยายน
๒๕๒๘ สภาพพื้นที่ป่าส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง
ใบไม้จะเปลี่ยนสีผลัดใบในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ที่ตั้งของสำนักงานอุทยานฯ
จะอยู่บริเวณภูพานคำริมทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์มีทิวทัศน์ที่สวยงามมากโดยเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตก
ภายในบริเวณที่ทำการอุทยานฯมีสถานที่สำหรับตั้งค่ายพักแรมได้
สิ่งที่น่าสนใจส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณภูเก้าในเขตจังหวัดหนองบัวลำภู
ได้แก่ ร่องรอยก่อนประวัติศาสตร์ของชุมชนในสมัยบ้านเชียง
เช่น ภาพเขียนสีและภาพสลักตามผนังถ้ำต่างๆ
และรอยเท้าไดโนเสาร์ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นพันธุ์เดียวกับรอยเท้าที่พบที่อำเภอภูเวียง
เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ศึกษาวิจัยซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
ก่อตั้งโดยความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) จังหวัดขอนแก่น
และกรมทรัพยากรธรณี
เพื่อศึกษาค้นคว้าและเผยแพร่ความรู้ด้านทรัพยากรธรณีแก่สาธารณชน
อาคารพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น
๓ ส่วน คือ ส่วนบริการ
ส่วนวิชาการ
และส่วนนิทรรศการ
โดยในห้องจัดแสดงนิทรรศการ
แบ่งพื้นที่แสดงเป็นการกำเนิดโลก
หิน แร่ ซากดึกดำบรรพ์
และหุ่นจำลองไดโนเสาร์
เป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันพุธ
ตั้งแต่เวลา
๐๙.๐๐ -๑๗.๐๐
น.
อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน
รูปลักษณ์ภายนอกของอุทยานแห่งนี้คือเทือกเขาหินปูนที่มีหน้าผาตัดตรงดิ่งลงมาเป็นริ้ว
ๆ คล้ายผ้าม่าน
สภาพป่าของที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าดิบ
และป่าไม้เบญจพรรณ
สภาพอากาศจะเย็นชื้นเกือบตลอดปี
อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมด
๒๑๘, ๗๕๐ ไร่
ครอบคลุมอาณาบริเวณในอำเภอภูผาม่าน
และอำเภอชุมแพ
จังหวัดขอนแก่น
และอำเภอภูกระดึง
จังหวัดเลย
หมู่บ้านเต่า
จะมีเต่าบกชนิดหนึ่ง
(ชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า
“เต่าเพ็ก”)
ลักษณะกระดองจะมีสีเหลืองแก่ปนน้ำตาลอยู่เป็นจำนวนมาก
บ้างก็จะอยู่บริเวณใต้ถุนบ้านเพื่อรออาหารจากชาวบ้าน
บ้างก็เดินอยู่ตามถนนภายในหมู่บ้านซึ่งจะหาดูได้ไม่ยาก