|
คำขวัญ : "
เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ
บริเวณจังหวัดตรังในสมัยโบราณ เคยเป็นที่ตั้งของชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จากหลักฐานการขุดพบโบราณวัตถุสมัยหินใหม่ เช่น เครื่องมือหิน ภาชนะ โครงกระดูก ฯลฯ ที่ตำบลนาล่าง อำเภอเมืองตรังและได้รับอิทธิพลของพุทธศาสนาลัทธิหินยานจากอินเดีย ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย เมื่อราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราชปกครองนครศรีธรรมราช ก็มีเมืองตรังเป็นหนึ่งในจำนวนเมืองขึ้นทั้ง 12 เมือง มีสัญลักษณ์เป็นตราม้า หรือ มะเมีย และขึ้นตรงต่อเมืองนครฯ เรื่อยมา จนกระทั่งถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการตั้งเมืองตรังขึ้นเป็นครั้งแรก โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงแต่งตั้งพระอุไภยธานีเป็นเจ้าเมืองตรังคนแรก และได้มีการสร้างหลักเมืองตรังไว้ที่ ควนธานี ต่อมาเมื่อรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ เมื่อ พ.ศ. 2433 ทรงเห็นเมืองตรังมีสภาพทรุดโทรม จึงทรงโปรด ฯ ให้พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) มาดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองตรัง และสร้างความเจริญให้แก่ตรังอย่างมากมาย โดยย้ายเมืองไปตั้งที่กันตัง ปากแม่น้ำตรัง และพัฒนาเป็นเมืองท่าการค้า และยังได้ส่งเสริมให้มีการปลูกยางพาราที่จังหวัดตรังเป็นแห่งแรก เมื่อมีการปฏิรูปการปกครองเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองตรังจึงถูกรวมเข้าเป็นหัวเมืองหนึ่งของมณฑลภูเก็ต ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่า ที่ตั้งตัวเมืองตรังเดิม คือ เมืองกันตัง ไม่ปลอดภัยจากศัตรู ไม่เป็นศูนย์กลางของจังหวัด ทั้งยังเป็นที่ลุ่มมากน้ำทะเลท่วมถึง จะขยายตัวเมืองได้ยาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ย้ายเมืองไปตั้งที่ตำบลทับเที่ยง อำเภอบางรัก ซึ่งเป็นที่ตั้งของอำเภอเมืองตรังมาจนทุกวันนี้ และเมื่อมีการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2476 เมืองตรังจึงมีฐานะเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยครับ อาณาเขต : ทิศเหนือ
จดนครศรีธรรมราช จังหวัดตรัง อยู่ห่างจากกรุงเทพ ฯ ๘๒๘ กิโลเมตร เป็นเมืองท่าทางฝั่งตะวันตกของประเทศไทยด้านมหาสมุทรอินเดียมาแต่โบราณ มีเนื้อที่ ๔๙๑๗ ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น ๘ อำเภอ ๑ กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอห้วยยอด อำเภอกันตัง อำเภอปะเหลียน อำเภอสิเกา อำเภอย่านตาขาว อำเภอวังวิเศษ อำเภอนาโยง และ กิ่งอำเภอรัษฎา
|
|